Skip to content

ไขข้อสงสัย “กลิ่นคนแก่” เกิดจากอะไร แก้ไขได้หรือไม่

  • by

แก้ไขล่าสุดวันที่ 14 กันยายน 2024 by araiwaa

ใครหลายคนคงเคยสังเกตว่าผู้สูงอายุหลายท่านมีกลิ่นตัวแตกต่างจากคนหนุ่มสาวทั่วไป หรือที่เรียกติดปากกันว่า “กลิ่นคนแก่” กลิ่นนี้แม้ไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพ แต่อาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ใกล้ชิดได้บ้าง บางคนพยายามใช้น้ำหอม ระงับกลิ่นกายหรือซักผ้าบ่อยๆ แล้ว แต่ก็ไม่สามารถลดกลิ่นนี้ได้ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นและเกิดจากอะไรกันนะ วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน

สาเหตุของกลิ่นในผู้สูงวัย

สาเหตุหลักของกลิ่นคนแก่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกายผู้สูงวัย ไม่ใช่เรื่องของความสะอาดหรือสุขอนามัย โดยเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ได้แก่

  • ต่อมเหงื่อผลิตเหงื่อออกมาน้อยลง ทำให้กลิ่นตัวเข้มข้นขึ้น
  • ผิวหนังผลิตน้ำมันตามธรรมชาติน้อยลง เซลล์ผิวหนังแก่ตัวและหลุดลอกช้าลง ส่งผลให้ขับกลิ่นไม่มีประสิทธิภาพ
  • เนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนังผลิตสารเคมีชนิดหนึ่งชื่อ Nonenal ที่ทำให้เกิดกลิ่นเฉพาะตัว
  • ผู้สูงวัยบางคนอาจมีปัญหาสุขภาพ ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียหรือเชื้อราได้ง่าย ก็ยิ่งส่งกลิ่นแรง
  • ยาบางชนิดทำให้ผิวหนังแพ้ง่าย เหงื่อออกมาก กลิ่นตัวก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
  • ฮอร์โมนเพศในร่างกายที่เปลี่ยนไปตามวัย ก็มีส่วนทำให้เกิดกลิ่นตัวด้วยเช่นกัน

วิธีลดกลิ่นในผู้สูงวัย

การลดกลิ่นคนแก่อาจทำได้ยากกว่าคนหนุ่มสาว เพราะเป็นผลมาจากความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกาย แต่ก็สามารถช่วยลดหรือกลบกลิ่นได้บ้าง ด้วยวิธีง่ายๆ เหล่านี้

  1. อาบน้ำอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง โดยใช้สบู่ที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์หรือสารเคมีที่เป็นอันตรายเจือปน
  2. ใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ ซับตัวหลังอาบน้ำให้แห้งสนิท ไม่ปล่อยให้ผิวหนังชื้นแฉะนาน
  3. ทาโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว
  4. สวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากเนื้อผ้าระบายอากาศได้ดี ซับเหงื่อได้ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ไม่ควรใส่เสื้อผ้ารัดรูปจนเกินไป
  5. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวและลดอาการคันได้
  6. ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชาลงในน้ำอุ่น ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ เช็ดตามผิวตัว ช่วยขจัดกลิ่นตัวได้ในระดับหนึ่ง
  7. วางชามใส่ถ่านไม้หรือถ่านกัมมันต์ไว้ในห้องหรือในตู้เสื้อผ้า ช่วยดูดซับกลิ่นอับได้ดี
  8. ขจัดกลิ่นเสื้อผ้าด้วยการพรมเบกกิ้งโซดาบางๆ ทิ้งไว้ข้ามคืนก่อนนำไปซัก หรือเติมน้ำส้มสายชูขาวขณะซักผ้า
  9. เปลี่ยนผ้าปูเตียงและปลอกหมอนบ่อยๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง จะช่วยขจัดกลิ่นคาวจากเหงื่อไคลได้ดี
  10. พบแพทย์ตรวจสุขภาพเป็นประจำ รักษาอาการผิวหนังอักเสบ ผื่นคัน หรือโรคอื่นๆ ที่อาจทำให้กลิ่นตัวแย่ลง

โดยสรุปแล้ว กลิ่นในผู้สูงวัยเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ตามวัยที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายที่ลดการขับเหงื่อ กลิ่นจึงเข้มข้นมากขึ้น หากสามารถทำความเข้าใจ ดูแลสุขอนามัยอย่างเหมาะสม พร้อมปรับวิถีชีวิตและสภาพแวดล้อมตามคำแนะนำข้างต้น ก็จะช่วยลดกลิ่นผู้สูงวัยได้ในระดับหนึ่ง ควบคู่ไปกับการมีใจเข้าใจและยอมรับกันและกันในครอบครัว