Skip to content

เทคนิคกำจัด “ตะไคร่น้ำ” ตัวร้ายช่วงฝนหน้าฝน พร้อมวิธีป้องกันไม่ให้กลับมา

  • by

แก้ไขล่าสุดวันที่ 18 กันยายน 2024 by araiwaa

ในช่วงฝนหน้าฝน ปัญหาหนึ่งที่มักมาพร้อมกับความชื้นคือ ตะไคร่น้ำ ซึ่งชอบขึ้นตามพื้นที่แฉะแช่น้ำ พื้นซีเมนต์ หรือมุมต่างๆ ที่มีแสงแดดส่องถึงน้อย นอกจากจะดูสกปรกสะดุดตาแล้ว ตะไคร่น้ำยังอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เพราะทำให้พื้นลื่นจนอาจทำให้ลื่นล้มได้ง่าย วันนี้เรามาดูวิธีกำจัดตะไคร่น้ำกันแบบง่ายๆ ได้ผลชะงัก พร้อมเคล็ดลับป้องกันไม่ให้ตะไคร่น้ำกลับมาอีก จะมีวิธีไหนบ้าง

ทำความรู้จัก “ตะไคร่น้ำ” ปัญหาใหญ่ในหน้าฝน

ตะไคร่น้ำ คือ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายพืช แต่จัดอยู่ในกลุ่มของสาหร่ายสีเขียว มักขึ้นในที่ชื้นแฉะ แพร่พันธุ์และเจริญเติบโตได้เร็วมากในสภาวะที่เหมาะสม ตะไคร่น้ำมีคุณสมบัติในการดูดซับความชื้นได้ดี เมื่อได้รับความชื้นมากๆ เช่นช่วงหน้าฝน ตะไคร่น้ำจะเริ่มขยายตัวเกาะตามพื้นผิวต่างๆ ทำให้ดูสกปรกและลื่น เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะเมื่อเหยียบโดนจะรู้สึกลื่นมาก

ส่วนใหญ่แล้วตะไคร่น้ำมักขึ้นตามพื้นซีเมนต์ พื้นกระเบื้อง ขอบสระว่ายน้ำ ผนังบ้านด้านนอก รวมถึงโพรงต้นไม้ มอสส์ หรือพื้นผิวที่มีความชื้นสะสมอยู่เป็นเวลานาน ดังนั้นในช่วงหน้าฝนที่มีความชื้นสูง เราจึงมักเจอปัญหาตะไคร่น้ำอยู่บ่อยๆ

อันตรายจากตะไคร่น้ำที่ไม่ควรมองข้าม

ถึงแม้ตะไคร่น้ำจะดูเป็นแค่ตัวเล็กๆ ไม่น่ามีพิษภัยอะไร แต่ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะนอกจากจะทำให้บ้านดูสกปรกและไม่น่าอยู่แล้ว ตะไคร่น้ำก็เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุจากการลื่นล้มได้บ่อย ซึ่งพบได้มากในช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะในบริเวณทางเดินที่เปียกชื้น ถ้าเราเผลอไปเหยียบโดนพื้นที่มีตะไคร่น้ำ อาจทำให้ลื่นล้มจนได้รับบาดเจ็บได้

อีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามคือ ตะไคร่น้ำอาจส่งผลให้โครงสร้างอาคารและผนังบ้านที่เป็นคอนกรีตเกิดการผุกร่อนได้ในระยะยาว หากปล่อยให้มีความชื้นสะสมตามซอกมุมต่างๆ ทำให้ต้องเสียค่าซ่อมแซมในภายหลัง ดังนั้นเมื่อพบตะไคร่น้ำเกาะตามที่ต่างๆ ควรรีบจัดการทำความสะอาดและกำจัดออกไปโดยเร็ว

วิธีง่ายๆ ในการกำจัดตะไคร่น้ำให้หมดไป

สำหรับวิธีการขจัดตะไคร่น้ำให้หมดไป สามารถทำได้ดังนี้

  • ใช้แปรงขัดที่มีขนแข็งขัดถูบริเวณที่มีตะไคร่น้ำจนหลุดออก จากนั้นใช้น้ำล้างทำความสะอาดซ้ำอีกครั้งจนสะอาด
  • ผสมน้ำยาล้างจานหรือน้ำยาทำความสะอาด กับน้ำอุ่น แล้วใช้แปรงจุ่มน้ำยาขัดถูให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพักเพื่อให้น้ำยาออกฤทธิ์ก่อนจะล้างออก
  • ผสมผงซักฟอกกับน้ำเปล่าให้เข้ากัน ราดลงบนบริเวณที่มีตะไคร่น้ำ แล้วใช้แปรงขัดถูจนตะไคร่น้ำหลุดออก
  • ใช้น้ำส้มสายชูราดลงไปบนพื้นที่มีตะไคร่น้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ก่อนจะล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • ใช้ไฮเตอร์หรือคลอรีนเทลงไปตรงจุดที่มีตะไคร่น้ำ แล้วใช้แปรงขัดถูเบาๆ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำให้สะอาด

เคล็ดลับป้องกันไม่ให้ตะไคร่น้ำกลับมา

หลังจากที่กำจัดตะไคร่น้ำออกไปได้แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ตะไคร่น้ำกลับมาอีก สามารถทำได้ดังนี้

  • หมั่นทำความสะอาดพื้นและผนังบ้านอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้มีความชื้นสะสมจนเกิดตะไคร่น้ำ
  • จัดสภาพแวดล้อมบริเวณบ้านให้มีแสงแดดส่องถึง เพื่อลดความชื้นในอากาศ ตะไคร่น้ำจะได้ไม่สามารถเจริญเติบโตได้
  • ตรวจสอบการรั่วซึมของท่อน้ำประปาหรือฝักบัว หากพบให้รีบซ่อมแซมและอุดรอยรั่วโดยเร็ว
  • ทาน้ำยากันซึมหรือกันความชื้นบริเวณขอบประตู หน้าต่าง หรือผนังภายนอกบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นเข้ามาภายในบ้านได้
  • ติดตั้งพัดลมระบายอากาศในห้องน้ำและในครัว เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก ลดความชื้นสะสม
  • หลีกเลี่ยงการปลูกต้นไม้แนบชิดกับตัวบ้านมากเกินไป เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และแสงแดดส่องถึง
  • ใช้น้ำยากำจัดตะไคร่น้ำโดยเฉพาะ ซึ่งมีส่วนผสมของคลอรีนหรือโซเดียมไฮเปอร์คลอไรท์ ช่วยฆ่าสปอร์ของตะไคร่น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ดูแลไม่ให้มีความชื้นสะสมนานๆ เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันไม่ให้ตะไคร่น้ำเกิดขึ้นอีก แต่หากพบว่ามีตะไคร่น้ำกลับมาอีก ก็ให้รีบแก้ไขโดยเร็วเพื่อป้องกันอันตรายจากการลื่นล้ม และยังช่วยให้บ้านน่าอยู่ สวยงามปราศจากตะไคร่น้ำตัวร้ายได้อย่างยั่งยืน